วันที่ 3 ส.ค.63 เวลา 14.00 น. พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายอาคม จงจิระ อธิบดีกรมการปกครอง นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายประยูร รัตนเสนีย์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และคณะ ลงพื้นที่จังหวัดเลย เพื่อตรวจติดตามสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่จังหวัดเลย และให้กำลังใจกับประชาชนที่ประสบอุทกภัย (น้ำท่วม) ที่บ้านสูบ ตำบลน้ำสวย อำเภอเมืองเลย จังหวัดเลย พร้อมทั้งให้กำลังใจกับหน่วยงานต่างๆ ที่ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งมีบ้านเรือนราษฎร ทรัพย์สิน พืชผลทางการเกษตร ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก โดยมีนายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการให้การต้อนรับ และบรรยายสรุปสถานการณ์อุทกภัย(น้ำท่วม) ในพื้นที่จังหวัดเลย ที่ห้องประชุมท่าอากาศยานเลย จากนั้น นำคณะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ ดังนี้จุดแรก ลงพื้นที่วัดศรีสว่างวารี บ้านสูบ ตำบลน้ำสวย อำเภอเมืองเลย ตรวจเยี่ยมโรงครัวพระราชทาน ของมณฑลทหารบกที่ 28 ค่ายศรีสองรัก นำรถครัวพระราชทาน จำนวน 2 คัน ประกอบอาหารข้าวกล่องเลี้ยงพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือนร้อน ตรวจเยี่ยมรถผลิตน้ำดื่มสะอาด ของหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 23 อ.นาด้วง ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ อ.ส.ม.ในพื้นที่ และตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลสนามสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเลย พร้อมมอบข้าวกล่องจากโรงครัวพระราชทานให้กับประชาชนด้วยจุดที่ 2 เดินทางไปยังกองอำนวยการให้ความช่วยเหลือประชาชน ในบริเวณกลางหมู่บ้านสูบ พบปะกับหน่วยงานต่างๆ ที่มาอำนวยการให้ความช่วยเหลือประชาชน พร้อมเยี่ยมและมอบถุงยังชีพให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือนกว่า 500 คน จากนั้นเดินสำรวจความเสียหายในพื้นที่บ้านสูบและสอบถามข้อมูลด้วยความห่วงใย ใกล้ชิด เป็นกันเอง จุดที่ 3 มอบถุงยังชีพและเงินช่วยเหลือผู้สูงอายุ จำนวน 5 คน โดยมีคุณยายอายุ 97 ปี ด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า วันนี้ลงพื้นที่มาเยี่ยมพี่น้องประชาชนบ้านสูบด้วยความห่วงใย มาเห็นพื้นที่บ้านเรือนพี่น้องประชาชน รวมทั้งนาข้าว พืชผลทางเกษตรเกษตร ได้รับความเสียหายอย่างหนักแล้ว ขอให้กำลังใจกับผู้ประสบอุทกภัยทุกท่าน โดยนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา) มีความเป็นห่วงพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยเป็นอย่างมาก จึงได้มอบหมายให้นำคณะลงพื้นที่เพื่อให้กำลัง และมอบความช่วยเหลือในเบื้องต้นก่อน ส่วนความช่วยเหลือด้านอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเกษตร และความเสียหายด้านทรัพย์สินต่างๆ จะได้เร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งสำรวจความเสียหายและรีบดำเนินการให้ความช่วยเหลือตามระเบียบต่อไป

ที่มา : http://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG200803193901532