ผู้ว่าฯ เลย ประชุม war Room เตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วมและเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานเร่งป้องกันจุดเสี่ยงในทุกพื้นที่อย่างจริงจัง
วันที่ 2 กันยายน 2567 เวลา 08.30 น. ที่ ห้องประชุมภูกระดึง ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดเลย นายชัยพจน์ จรูญพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เป็นประธานการประชุมคณะทำงานติดตามสถานการณ์อุทกภัยจังหวัดเลย ปี 2567 (War Room) ครั้งที่ 2/2567 โดยมี นายกิตติคุณ บุตรคุณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย นายสามารถ หมั่นนอก ปลัดจังหวัดเลย พ.อ.คณิศร ชานพิมาย ผู้แทน ผบ.มทบ.28 หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและภาคเอกชน เข้าร่วมประชุม
จังหวัดเลย ได้ประชุมเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์อุทกภัยในช่วงฤดูฝน โดยให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการร่วมกันในการป้องกันและแก้ไขปัญหาในพื้นที่จุดเสี่ยง ซึ่งเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดอุทกภัยทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน โดยแยกออกเป็น 2 ส่วน ดังนี้ ส่วนแรกเป็นจุดเสี่ยงที่คาดว่าน้ำเลยจะล้น ซึ่งจะต้องหาทางระบายน้ำให้ได้ภายใน 28 วัน นับจากวันนี้เป็นต้นไป และส่วนที่ 2 ถ้าหากมีฝนตกหนักในพื้นที่ทำให้เกิดน้ำท่วม ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จะต้องเตรียมเครื่องสูบน้ำ และจัดทำกระสอบทราย โดยขอสนับสนุนกำลังจากหน่วยงานต่างๆ และหน่วยงานทหารในพื้นที่ เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชน
ภายหลังจากการประชุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ได้มอบหมายให้นายกิตติคุณ บุตรคุณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ลงพื้นที่เพื่อหาแนวทางแก้ไขการกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำในแม่น้ำเลย 3 จุด คือ อ่างน้ำพาว ตำบลเมือง อ่างเก็บน้ำน้ำหมาน ตำบลน้ำหมาน และชุมชนบ้านติ้ว เทศบาลเมืองเลย
สำหรับการแก้ไขปัญหาทั้ง 3 จุด เริ่มจาก จุดที่ 1 คือ อ่างน้ำพาว ซึ่งขณะนี้มีปริมาณน้ำเต็มอัตราการเก็บ จึงจำเป็นต้องพร่องน้ำให้ไหลลงน้ำเลย โดยการขุดลอกสิ่งกีดขวางทางน้ำออก บริเวณบ้านกำเนิดเพชร เพื่อให้น้ำไหลได้สะดวก จุดที่ 2 อ่างเก็บน้ำน้ำหมาน ซึ่งมีระดับการกักเก็บน้ำประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งขณะนี้สามารถพร่องน้ำเพื่อให้ในตัวอ่างมีพื้นที่ในการเก็บกักน้ำเพิ่ม เพื่อรองรับสถานการณ์ฝนในช่วงนี้ได้ จุดที่ 3 คือ การป้องกันแก้ไขปัญหาน้ำในเทศบาลเมืองเลย โดยเฉพาะในชุมชนบ้านติ้ว ได้ทำการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ไว้แล้ว 2 เครื่อง ทั้งนี้ จังหวัดเลย ได้บูรณาการหน่วยงานทุกภาคส่วน เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาปัญหาอุทกภัยของจังหวัดเลยในปีนี้อย่างจริงจัง จึงขอให้ประชาชนได้เฝ้าระวังและติดตามการแจ้งเตือนของทางราชการ ผ่านนายอำเภอ องค์กรท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และติดตามข่าวพยากรณ์อากาศ จากศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน กรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดต่อไป