ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย พร้อมด้วย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเลย กราบคารวะสรงน้ำสรีระสังขาร หลวงปู่ดาด สิริปัญโญ วัดป่าสัมมานุสรณ์ อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย
นายทวี เสริมภักดีกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย พร้อมด้วย นางวราภรณ์ เสริมภักดีกุล นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเลย/ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดเลย นายประชา แสนกลาง นายอำเภอวังสะพุง หัวหน้าส่วนราชการ ประชาชนทั่วไป กราบคารวะสรงน้ำสรีระสังขาร หลวงปู่ดาด สิริปัญโญ วัดป่าสัมมนุสรณ์ อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย
หลวงปู่ดาด สิริปัญโญ ละสังขารอย่างสงบแล้ว ประมาณ ๐๔.๐๐ น. ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๖๖ ด้วยอาการนั่งสมาธิดับขันธ์อยู่หน้ากุฏิท่าน ณ วัดป่าสัมมานุสรณ์ อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย เวลา สิริอายุ ๗๙ ปี ๑ เดือน ๒ วัน พรรษา ๕๙ (*เวลาตี ๔ คือเวลาที่พระเณรขึ้นไปทำข้อวัตร จึงทราบว่าหลวงปู่ละขันธ์แล้ว เวลาท่านดับขันธ์จริง ๆ ต้องให้ทางการแพทย์วินิจฉัยอีกครั้ง)
ประวัติและปฎิปทา พระครูวีรญาณโสภณ (หลวงปู่ดาด สิริปญฺโญ / คำจัตุรัส) พระครูวีรญาณโสภณ (ดาด สิริปญฺโญ/คำจัตุรัส) วัดป่าสัมมานุสรณ์ ตั้งอยู่เลขที่ ๒๒๗ หมู่ที่ ๖ บ้านโคกมน ตำบลผาน้อย อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย
ชาติภูมิ พระครูวีรญาณโสภณ (ดาด สิริปญฺโญ / คำจัตุรัส) เกิดเมื่อ วันที่ ๒๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๘๗ ปีวอก แต่ตามทะเบียนราษฎร์ เป็นวันที่ ๑๐ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๘๗ เนื่องจากการแจ้งเกิดผิดพลาด ถือกำเนิด ณ บ้านเลขที่ ๒๖ หมู่ที่ ๕ ตำบลขัวเรียง อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น บิดาชื่อ นายหมื่น คำจัตุรัส มารดาชื่อ นางดี คำจัตุรัส มีอาชีพทำนามีพี่น้องร่วมบิดามารดา ๒ คน คนที่ ๑ พระครูวีรญาณโสภณ (ดาด สิริปญฺโญ / คำจัตุรัส) คนที่ ๒ นายอี คำจัตุรัส (ถึงแก่กรรมแล้ว) ครอบครัวของท่านมีอาชีพทำนา ฐานะทางบ้านค่อยข้างดี ท่านมีร่างกายแข็งแรง สมองดี และเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงของครอบครัว ทำนาหาเลี้ยงครอบครัว ทำงานช่วยบิดา ตั้งแต่วัยเรียน ท่านได้ศึกษาเล่าเรียน • จบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ที่โรงเรียนบ้านสัมพันธ์ • จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ที่โรงเรียนราชอำนวยศิลป์ • จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ ที่โรงเรียนหนองแกวิทยาที่ได้เรียนหนังสือเพราะโยมแม่ของท่านอยากให้ลูกเรียน และโยมแม่ของท่านเป็นญาติกับคุณครูสุริยา อรุโณทัย โยมแม่อยากให้เรียนเลยซื้อรถจักรยานให้และไปฝากท่านกับครูสุริยา เพื่อเรียนหนังสือ แต่ที่เรียนไม่จบ ม.๖ เนื่องจากท่านไปเตะฟุตบอล เข้าทีมนักฟุตบอลเป็นนักกีฬาเลยไม่ได้เรียน หลังจากท่านเรียนจบแล้ว ท่านก็รับภาระทำงานช่วยบิดาเลี้ยงครอบครัว
บรรพชาและอุปสมบท เมื่ออายุครบ ๒๐ ปี บิดา มารดา ของท่าน อยากให้ท่านบวชแทนพระคุณบิดามารดา จึงได้นำตัวท่านไปฝากกับ พระครูธรรมธร(หลวงปู่เขียน ชุติกาโม) และท่านก็ได้ศึกษาข้อวัตรปฏิบัติ พร้อมท่องนาค ขานนาค สมควรแก่อุปนิสัยกุลบุตร ผู้สมควรได้รับการบรรพชาอุปสมบทแล้ว พระครูธรรมธร หรือหลวงปู่เขียน ชุติกาโม จึงอนุญาตให้บวชที่ วัดสว่างอารมณ์ บ้านสว่างหนองแก ตำบลขัวเรียง อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น หลวงปู่ดาด สิริปญฺโญ ได้บรรพชาและอุปสมบทในวันที่ ๒๗ เมษายน พ.ศ.๒๕๐๗ เวลา ๑๔.๓๐ น โดยมีพระครูเขมาภรณ์พิสุทธิ์ (หลี่ เขมาภิรโต) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระสมุห์ชม โชติธมฺโม ปัจจุบันคือ พระครูนิบุญธรรมวินิจ (ชม โชติธมโม) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์เลิศ เป็นพระอนุสาวนาจารย์
ลำดับการจำพรรษา ท่านอุปสมบทแล้วก็ได้ศึกษากับ พระครูธรรมธร(หลวงปู่เขียน ชุติกาโม) พอใกล้เข้าพรรษาแล้วปกติ พระครูธรรมธร (หลวงปู่เขียน ชุติกาโม) ท่านจะส่งลูกศิษย์ไปศึกษาเล่าเรียนหนังสือ ที่วัดโพธิสมภรณ์ จังหวัดอุดรธานี และวัดศรีจันทร์ จังหวัดขอนแก่น แต่ในปี พ.ศ.๒๕๐๗ นี้ พระครูธรรมธร (หลวงปู่เขียน) ท่านถามความสมัครใจก่อนว่า ใครอยากจะไปทางไหน จะไปทางปริยัติธรรม หรือจะไปทางปฏิบัติกรรมฐาน หลวงปู่ดาด ท่านก็เลือกไปปฏิบัติกรรมฐาน หลวงปู่เขียน จึงนำท่านไปฝากกับสหธรรมมิกของท่าน คือ หลวงปู่คำดี ปภาโส วัดถ้ำผาปู่ จังหวัดเลย พอมาถึงวัดถ้ำผาปู่ หลวงปู่คำดี ได้กราบเรียนหลวงปู่เขียนว่า กุฎิพระเต็มหมดแล้ว ถ้าจะสร้างเพิ่มใหม่คงไม่ทันเข้าพรรษา เพราะเหลืออีกไม่กี่วันก็จะเข้าพรรษาแล้ว หลวงปู่คำดี จึงเขียนจดหมายฝากถึงหลวงปู่ชอบ ฐานสโม เพื่อฝากท่านให้อยู่จำพรรษาที่วัดป่าสัมมานุสรณ์ พอเดินทางมาถึงวัดก็เจอหลวงปู่ชอบท่านตีตาดกวาดลานวัดอยู่ จึงขอโอกาสเข้ากราบเรียน จากนั้นท่านจึงได้เข้าฝากตัวเป็นศิษย์หลวงปู่ชอบ ฐานสโม นับแต่นั้นมา
• พรรษาที่ ๑ (พ.ศ.๒๕๐๗) จำพรรษาที่วัดป่าสัมมานุสรณ์ โดยมีหลวงปู่บัวคำ มหาวีโร เป็นประธานสงฆ์ ในพรรษานี้ก่อนจะเข้าพรรษา ๑ วัน หลวงปู่ชอบ ได้ชวนท่าน (หลวงปู่ดาด) ไปจำพรรษาที่ด่านซ้าย แต่เนื่องจากช่วงนั้นท่านมีอาการปวดขา เป็นโรครูมาตอยด์ ปวดมาก ท่านเดินกลับเข้ากุฏิ แล้วก็คิดในใจว่า คงเดินไม่ไหวแน่ พอเช้ามาหลวงปู่ชอบ ท่านพูดขึ้นว่า “ขี้ร้ายหลายบ่ต้องไป” หลวงปู่ชอบ ท่านก็เลยเปลี่ยนให้ครูบาหม่อยไปแทน ท่านเลยไม่ได้ไป ในพรรษานี้ท่านสามารถท่องจำบทสวด ๗ ตำนาน ๑๒ ตำนาน พระสูตรต่างๆ และพระปาฏิโมข์ได้ในพรรษาเดียว โดยกลางวันก็ทำข้อวัตรปกติ และช่วยครูบาอาจารย์สร้างวัด สร้างกุฏิ ปลูกต้นไม้ กลางคืนก็มานั่งอ่าน นั่งท่องจำบทสวดมนต์ จุดเทียนในกุฏิก็ไม่ได้ หลวงปู่ชอบ ท่านได้ห้ามไว้เพราะเคยมีไฟไหม้กุฏิมาแล้ว ท่านเลยได้มานั่งอ่านกลางแจ้ง โดยอาศัยแสงเดือน แสงดาวแทน
• พรรษาที่ ๒ (พ.ศ.๒๕๐๘) ก็ได้จำพรรษาที่วัดป่าสัมมานุสรณ์ มีหลวงปู่บุญฤทธิ์ ปณฺฑิโต เป็นประธาน หลวงปู่บัวคำ มหาวีโร , หลวงปู่คำผอง กุสลธโร และหลวงปู่ผจญ อสโม และท่านอื่นร่วมจำพรรษาด้วย ในปีพ.ศ.๒๕๐๘ นี้ ท่านไปคัดเลือกทหารกองเกินที่บ้านเกิดท่าน ก่อนกลับท่านได้ชักชวนหลวงปู่ผจญ อสโม ท่านเป็นญาติพี่น้องกัน เป็นญาติสนิทเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เด็ก ถือว่ามีความรักห่วงใยกันมากจึงชักชวนมาบวช พร้อมทั้งพาเข้าฝากตัวเป็นศิษย์หลวงปู่ชอบ และจำพรรษาที่วัดป่าสัมมานุสรณ์ ช่วงนั้นหลวงปู่ผจญ เคยเล่าให้ฟังว่า ตอนมาอยู่ใหม่ๆ โคกมนยังมีช้างอยู่เลย และในปีนี้ พระครูธรรมธร (หลวงปู่เขียน ชุติกาโม) ซึ่งเป็นอาจารย์ท่านได้มรณภาพ ก็ได้ไปกราบศพ แต่คณะสงฆ์เก็บศพไว้ก่อนท่านเลยกลับวัดก่อน พอออกพรรษาท่านได้ไปปฏิบัติธรรม กับหลวงปู่คำดี ปภาโส ที่วัดถ้ำผาปู่ เป็นวลา ๙ เดือน และพรรษานี้ท่านตั้งใจว่าจะจำพรรษากับหลวงปู่คำดี แต่พอใกล้เข้าพรรษาแล้ว หลวงปู่ท่อน ญาณธโร ไม่มีพระสวดปาฏิโมกข์ ต้องการพระปาฏิโมกข์ หลวงปู่ท่อนท่านจึง ขอหลวงปู่ดาด ไปจำพรรษาที่วัดศรีอภัยวันด้วย
• พรรษาที่ ๓ (พ.ศ.๒๕๐๙) จำพรรษาที่วัดศรีอภัยวัน มีหลวงปู่ท่อน ญาณธโร เป็นประธาน และหลวงปู่ทองผุด ช่วงนั้นกำลังสร้างวัดด้วย หลวงปู่ดาดเล่าว่า ได้วิชาช่างที่นี่ เพราะได้ช่วยหลวงปู่ท่อนสร้างศาลา กุฏิ พาหมู่คณะไปแบกไม้จากภูเขาโน้นลงมาท่านว่าหลังจากออกพรรษาแล้ว ท่านและหมู่คณะท่านที่เคยจำพรรษาด้วยกันได้ชักชวนกันไปเที่ยววิเวกที่ จังหวัดนครสวรรค์ ลำปาง เชียงใหม่ เชียงราย แล้วเดินตามเขตชายแดนพม่าจากเหนือสุดถึงล่าง พอช่วงเดือนเมษายน ท่านกับหมู่คณะได้มาช่วยงานครบรอบวันมรณภาพท่านพ่อลี ธมฺมธโร วัดอโศการาม ในงานท่านได้พบกับพระอาจารย์รังษี ท่านพระอาจารย์รังษี ได้ชักชวนให้ไปอยู่ถ้ำหว้า จังหวัดเพชรบุรี ท่านก็ไปด้วย พอออกจากถ้ำหว้า ก็มาที่สวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี แล้วไปอยู่ผาปก ทุ่งเจดีย์ ช่วงนี้ท่านได้ยินข่าวว่าพระครูวิโรจน์ธรรมมาจารย์(หลวงปู่มหาปิ่น ชลิโต)ได้พาหลวงปู่สีทน สีลธโน มาบ้านคา ท่านจึงเข้าไปกราบหลวงปู่มหาปิ่น หลวงปู่สีทน และได้ตัดเย็บผ้าเตรียมบริขารใหม่ และพักจำพรรษาที่นี้ ๒ พรรษา
• พรรษาที่ ๔ - ๕ (พ.ศ.๒๕๑๐ - ๒๕๑๑) จำพรรษาที่วัดป่าพระธาตุเขาน้อย มีหลวงปู่สีทน สีลธโน เป็นประธานในช่วงพักจำพรรษาที่บ้านคา หลวงปู่มหาปิ่น ชลิโต ได้มอบหมายให้ท่านเป็นผู้นำ ดำเนินการก่อสร้างกุฏิเสนาสนะต่างๆ และช่วยบุเบิกวัดใหม่ เพราะหลวงปู่สีทน ได้หนีไปภาวนา ไม่รับภาระใดๆ
• พรรษาที่ ๖ - ๗ (พ.ศ.๒๕๑๒ - ๒๕๑๓) จำพรรษาที่สำนักสงฆ์ผาปก มีหลวงปู่คำบ่อ ฐิตปญฺโญ เป็นประธาน หลวงปู่ทองสุก อุตฺตรปญฺโญ หลวงปู่คำผาง โชติโก ร่วมจำพรรษาด้วย หลังจากออกพรรษา พรรษาที่ ๗ แล้ว หลวงปู่สีทน สีลธโน ได้กลับวัดถ้ำผาปู่ ท่านจึงต้องกลับไปจำพรรษาที่บ้านคาอีก ๓ ปี เพราะไม่มีพระ ท่านว่าอยู่นาน เลยพูดภาษาเขาได้เลย ในปี พ.ศ.๒๕๑๒ ท่านได้กลับมาบ้านเกิด เพื่อร่วมงานถวายเพลิงพระครูธรรมธร (หลวงปู่เขียน ชุติกาโม) และก่อนกลับ ท่านได้ชักชวนเพื่อนสหธรรมมิกท่านไปด้วยหลายองค์ เช่น หลวงปู่บุญพร้อม , หลวงปู่ทองอาน หลวงปู่สมจิตร หลวงปู่รื่น และหลายท่านเลย เป็นปีที่พระภาคอีสานไปเยอะสุด
• พรรษาที่ ๘ - ๑๐ (พ.ศ. ๒๕๑๔ -๒๕๑๖) จำพรรษาที่ วัดป่าโป่งกระทิง มีท่านเองเป็นประธานสงฆ์ ช่วงในพรรษานี้ ท่านว่ามีหมู่คณะท่านจำพรรษาร่วมกันหลายองค์ และแวะเวียนมาอยู่พักแรม เช่น หลวงปู่ขันตี ญาณวโร หลวงปู่บุญเรือง กิตฺตปุญฺโญ หลวงปู่ชนะ อุตฺตมลาโภ หลวงปู่ผจญ อสโม หลวงปู่บุญพร้อม หาสจิตฺโต หลวงปู่เฉลิม ธมฺมธโร หลวงปู่มัด ฐานธมฺโม หลวงปู่มงคล สิริมงฺคโล หลวงปู่สมจิตร อโสโก หลวงปู่บุญเลี้ยง ชุมแพ หลวงตาแสวง ที่หนองคาย และจำไม่ได้ฯ (ช่วงอยู่จำพรรษาที่นี้หลายท่านเป็นไข้มาลาเรียกันหมด ยกเว้นหลวงปู่พร้อมที่ไม่เป็น หลวงปู่ชนะท่านเล่าว่า อาจารย์ดาด เป็นหมอฉีดยาให้หมู่คณะ หลวงปู่ขันตี ท่านเคยบอกว่า อาจารย์นะฮักอาจารย์ดาดหลายออกพรรษาที่ ๑๐ ท่านกลับมาวัดป่าสัมมานุสรณ์ เพื่อช่วยหลวงปู่บัวคำ มหาวีโร สร้างอุโบสถกลางน้ำ ที่ดำเนินก่อสร้างค้างคาอยู่ โดยหลวงปู่ชอบ ได้มอบหมายให้ท่านเช็คชื่อวันเวลา ลงทะเบียนคนทำงาน และปีนี้ได้ข้ามไปฝังลาวไปเที่ยวกับหลวงปู่บัวคำ ประมาณ ๑ เดือน หลังจากนั้นกลับมาวัดป่าสัมมานุสรณ์แล้ว ก่อนเข้าพรรษาท่านได้พาหลวงปู่ก้อนทอง ปิยธมฺโม มาบวช และเป็นพระอาจารย์สอนนาคหลวงพ่อบุญจันทร์ กตปุญฺโญ วัดป่ากุดฉิมด้วย พอออกพรรษาปีนี้หลวงปู่ชอบ ท่านจะไปจำพรรษาที่ ที่พักสงฆ์ กม.๒๗ (มูลนิธิหลวงปู่หลุย) มีพระไปด้วย ๔ รูป แต่ไม่มีพระปาฏิโมกข์ หลวงปู่ชอบท่านจึงให้หลวงปู่ดาดไปจำพรรษาด้วย เพราะได้ปาฏิโมกข์เลยได้ไปจำพรรษาที่ ที่พักสงฆ์ กม.๒๗ (มูลนิธิหลวงปู่หลุย) ของ พล.อ.อ.พโยม เย็นสุดใจ ท่านกล่าว
• พรรษาที่ ๑๑ (พ.ศ.๒๕๑๗) จำพรรษาที่ ที่พักสงฆ์ กม.๒๗ (มูลนิธิหลวงปู่หลุย) มีหลวงปู่ชอบ ฐานสโม เป็นประธาน โดยมีหลวงปู่ซามา อจุตฺโต หลวงตาแหล่ พระดม ปัจจุบันสึกแล้ว (ทิดดม) และท่านเอง ร่วมจำพรรษา ๕ รูป
• พรรษาที่ ๑๒ - ๑๓ (พ.ศ.๒๕๑๘ - ๒๕๑๙) จำพรรษาที่วัดป่าสัมมานุสรณ์ มีหลวงปู่บัวคำ มหาวีโร เป็นประธานหลังจากสร้างอุโบสถเสร็จ หลวงปู่ชอบ ท่านอยากให้สร้างเจดีย์ หลวงปู่บัวคำได้ควบคุมงานสร้างเจดีย์ถวายหลวงปู่ชอบ หลวงปู่ชอบได้มอบหมายให้หลวงปู่ดาดช่วยงานหลวงปู่บัวคำ สร้างเจดีย์ เพราะช่วงนั้นหลวงปู่บัวคำท่านป่วยไม่ค่อยสบาย อาพาธ ช่วงปี พ.ศ.๒๕๑๙ - ๒๕๒๐ โยมมารดาท่านป่วยหนัก ท่านจึงกลับไปดูอาการและได้จำพรรษาที่วัดสว่างอารมณ์
• พรรษาที่ ๑๔ (พ.ศ.๒๕๒๐) จำพรรษาที่วัดสว่างอารมณ์ มีท่านเป็นประธาน หลวงปู่สมจิตร อโสโก ร่วมจำพรรษด้วย โยมมารดาก็ขอให้ท่านลาสึกออกมาทำนาเลี้ยงแม่ บวชมานานแล้วสึกมาทำนาให้แม่กินหน่อย ท่านก็ตอบโยมแม่ว่า สึกไปแม่ก็ไม่หายป่วยอยู่ดี ท่านเลยไม่สึก
ปีนี้จำพรรษาที่นี่ท่านพัฒนาวัดและได้เปลี่ยนแปลงระเบียบในวัดสว่างอารมณ์หลายอย่าง เช่น พาฉันมื้อเดียว ท่านยกเลิกฉันเพล และให้ก่อตั้งกองทุนสงเคราะห์ศพ ซึ่งให้โยมมารดาท่านเป็นศพแรก
• พรรษาที่ ๑๕ - ๕๙ (พ.ศ.๒๕๒๑ - ๒๕๖๕) ท่านก็กลับมาจำพรรษาที่วัดป่าสัมมานุสรณ์ และอยู่จำพรรษาตลอดมาจนถึงปัจจุบัน
การศึกษา • จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ และนักธรรม ชั้นโท
การปกครอง • พ.ศ.๒๕๒๕ ได้รับแต่งตั้งเป็นรักษาการเจ้าอาวาสวัดป่าสัมมานุสรณ์ แต่งตั้งโดยพระราชศีลสังวร (โสภณ สุทธจนฺโท) • พ.ศ.๒๕๒๖ ได้รับแต่งตั้งเป็นรองเจ้าอาวาส วัดป่าสัมมานุสรณ์ (ตามจริงก็เป็นเจ้าอาวาสแทนหลวงปู่บัวคำ มหาวีโร แต่ไม่มีการแต่งตั้งเจ้าอาวาส อยู่มาปี ๒๕๔๗ พระราชสุเมธีถึงมาออกคำสั่งแต่งตั้งเจ้าอาวาสให้) • พ.ศ.๒๕๔๗ ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส วัดป่าสัมมานุสรณ์ พ.ศ.๒๕๔๙ ได้รับแต่งตั้งเป็นรักษาการเจ้าคณะอำเภอเชียงคาน (โดยหลวงปู่ท่อน ญาณธโร ท่านได้มาขอให้ช่วยรักษาการแทน แต่พอจะแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะอำเภอ ท่านก็ได้ปฏิเสธเนื่องจากอยู่ไกล พระในเขตปกครองไปมาหายากลำบาก)
สมณศักดิ์ • พ.ศ.๒๕๓๑ ได้รับการแต่งตั้งเป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตรี ที่ พระครูวีรญาณโสภณ (ราชทินนามเดิม หลวงปู่บัวคำ มหาวีโร เจ้าอาวาสรูปแรก) • พ.ศ. ๒๕๔๓ เลื่อน ชั้นโท ในราชทินนามเดิม
• พ.ศ.๒๕๖๒ เลื่อน ชั้นเอก ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ในพระราชทินนานเดิม
ปัจจุบัน พระครูวีรญาณโสภณ (ดาด สิริปญฺโญ / คำจัตุรัส) ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดป่าสัมมานุสรณ์ บ้านโคกมน ตำบลผาน้อย อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย อายุ ๗๙ ปี พรรษา ๕๙
…ประวัติคร่าว ๆ ยังไม่สมบูรณ์…ข้อมูลนี้ไม่ได้คิดปรุงแต่งขึ้นเอง บันทึกจากที่สอบถามหลวงปู่ และหลวงปู่ครูอาจารย์ท่านเล่าให้ฟัง และเพิ่มเติมโดย พระอาจารย์จักกริช จกฺกวโร ท่านมีศักดิ์เป็นพระหลานชายแท้ๆ เป็นลูกชายของตาอี คำจัตุรัส ซึ่งเป็นน้องชายคนเดียวของหลวงปู่ดาด สิริปญฺโญ หากผิดพลาด ขออนุเคราะห์ผู้รู้โปรดแจ้งเพื่อแก้ไข และเพิ่มเติมได้ อยู่ในช่วงรวบรวมเก็บข้อมูลฯ
รวบรวมและเรียบเรียงโดย พระยุทธพงษ์ ธมฺมยุทฺโธ (พระยุตต์) กราบขออนุญาตคัดลอกเพื่อเผยแผ่ สาธุ